5เหตุผล ของคนชอบเขียนล็อคเกอร์
ชอบแบ่งปัน
คุณเป็นที่ชอบแชร์วีดีโอที่คุณชอบ ในFacebook รึเปล่า?
คุณเป็นคนชอบแชร์ลิงก์บทความที่ได้อ่านแล้วชอบ เป็นประโยชน์ ให้เพื่อนๆของคุณได้กด Like ไหม? หรือ
คุณชอบแชร์ภาพโดนใจจากเพจต่างๆที่คุณไปกด Like บ้างไหม?
หากใช่!
มันคือคุณสมบัติประจำตัว Blogger มืออาชีพ ที่มักชอบแบ่งปันเรื่องราวต่างๆให้เพื่อนๆได้รู้ บางเรื่่องเป็นสิ่งที่คุณชอบจึงแชร์ บางเรื่องเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากๆในชีวิตประจำวัน การงาน อาชีพ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ คุณจึงแชร์
คุณจะเป็น Blogger ไม่ได้เลย หากคุณไม่ชอบแบ่งปัน
- เรื่องที่คุณรู้เห็นมา เป็นประโยชน์ << เรื่องแบบนี้น่าแชร์
- ประสบการณ์ของคุณ << เรื่องแบบนี้มีคนอยากอ่านมากมาย
- เรื่องที่คุณได้อ่าน เรียน ศึกษา จนเข้าใจ << แชร์เลยเป็นประโยชน์กับคนที่ยังไม่เคยรู้
เรื่องต่างๆเหล่านี้ สามารถนำมาเขียนลงบล็อคได้ การเรียบเรียง หรือทักษะการเขียนบทความ จะพัฒนาขึ้นตามลำดับ อย่ากังวลว่าคุณจะเขียนไม่เป็น เรื่องพวกนี้พัฒนากันได้ ค่อยๆเขียน ใช้ทักษะการเขียนที่คุณได้เรียนมาจากโรงเรียนนั่นแหละมาเขียน เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว ที่จะเขียนให้คนอ่านได้เข้าใจ
แต่การแบ่งปันเรื่องราวต่างๆที่กล่าวนั้น คุณต้องมีพื้นฐานเป็นคนชอบแชร์ บางเรื่องกว่าคุณจะรู้ด้วยประสบการณ์ตัวเอง คุณอาจจะต้องลงแรง ลงทุน เสียเงิน คุณอาจจะเสียดายความรู้นั้นๆ คุณสามารเขียน Ebook และขายความรู้นั้นได้ Blogger หลายคนก็เขียนความรู้ขาย ไม่แปลกที่คุณจะสามารถแบ่งปันความรู้นั้นๆ ด้วยการขาย
เปิดรับสิ่งใหม่ๆได้ดี
ความรู้ความเชื่อ ของคนเราหากได้เชื่อแล้ว ยากเหลือเกินที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากคุณสามารถปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ดี (ที่จริงคนเรา สามารถปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ดีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ…) นั่นหมายถึงคุณสามารถก้าวข้ามความเชื่อที่คุณเชื่อมาแต่ก่อนได้ ความรู้ที่คุณเคยรู้มา อาจจะล้าสมัยไปแล้ว คุณก็เปิดรับวิทยาการใหม่ๆที่เข้ามาแทนได้
หมายความว่า คุณสามารถยอมรับว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ยอมรับความรู้ใหม่ๆ ว่าสามารถช่วยให้ชีวิตดีขึ้น สะดวกสบายขึ้น มีความสุขมากขึ้น และพร้อมที่เรียนรู้เพื่อใช้มัน คือคุณสมบัติที่ Blogger ต้องมี เพราะอย่าลืมว่า Blogger ต้องใช้เครื่องมือเกี่ยวกับเทคโนโลยีค่อนข้างบ่อย และของพวกนี้มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การเรียนรู้เพื่อใช้มันเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ หากณจะใช้เครื่องมือพวกนั้นไม่เป็น คุณอาจจะกลายเป็น Blogger ที่ล้าสมัยได้
ความรู้ ความเชื่อ ก็เช่นเดียวกัน มีการเปลี่ยนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มีสิ่งใหม่ที่ดีกว่า แล้วทำไมคุณจะไม่ใช้มันล่ะครับ?
แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
การท่องอินเตอร์เน็ต ไปตามเว็บไซต์ต่างๆ เรามักชอบเข้าไปแสดงความคิดเห็นเรื่องต่างๆ บางคนที่แสดงความคิดเห็นด้วยอารมณ์ ความรู้สึกผ่านตัวหนังสือมากเกินไป โดยไม่คำนึงผลกระทบที่ตามมา บางคนหนักกว่านั้น แสดงความคิดเห็นโดยไม่อ่าน หรือหาข้อมูลก่อนโพสต์ด้วยซ้ำไป เห็นแค่ชื่อบทความ หรือรูปภาพบางครั้งก็เขียนด่าเจ้าของกระทู้เลย
(นี่ขนาดพิมพ์ผ่านคีย์บอร์ด ที่สามารถอ่าน ตรวจทาน ก่อนกด Comment ยังขนาดนี้ ไม่อยากคิดว่า จากสมองมาปากจะไวขนาดไหน ไม่มีตัวกรองเลยทีเดียว)
ผมไม่ได้ว่าใคร หรือตำหนิ การแสดงความคิดเห็นของคุณๆทั้งหลาย มันเป็นสิทธิ์ที่คุณสามารถทำได้ แต่ผมกลับมองว่า การแสดงความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์นั้นดีกว่า การด่าทอกันด้วยอารมณ์ หรือคอมเม้นไร้สาระ หรือล่วงละเมิความเป็นส่วนตัวของคนอื่น
การเป็น Blogger บางครั้งอาจจะเป็นบล็อกส่วนตัว ความคิดเห็นของเรา แต่อย่าลืมว่าเราคือบุคคลสาธารณะ เราสร้างเนื้อหาบนบล็อคเพื่อสาธารณะ บทความ ความเห็น ความเรียง หรือข้อเขียนใดๆของเรานั้นจะถูกจับจ้องจากคนอื่นอยู่เสมอ การแสดงความเห็นในแง่ลบกับความเชื่อของคนอื่น อาจสร้างผลเสีย ผลร้ายตามมาโดยที่คุณอาจจคาดไม่ถึงได้ (หลายกรณี เกิดขึ้นจากอินเตอร์เน็ตแต่สร้างผลกระทบไปสู่ชีวิตจริงได้…)
ผมสนับสนุนให้คนที่เป็น Blogger แสดงความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ ติเพื่อก่อ มากกว่าจะตำหนิด้วยความโกรษเกรี้ยว หรือให้อารมณ์ร่วมมากเกินพอดี…
มีเหตุผล และเปิดรับคำตำหนิได้
เมื่อคุณเป็น Blogger เรื่องที่คุณจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย คือ มีคนมาตำหนิคุณ ผมเองก็โดนตำหนิ บางคนมาด้วยอารมณ์เต็มๆ บางท่านมาตอเพื่อก่อ ให้เกิดการแก้ไขและปรับปรุงเนื้อหา บทความ ข้อเขียนเขียน ความเรียง หรือคำเป็นต่างๆทั้งในบล็อกของผม หรือใน Facebook Profile ก็มี
ไม่ว่าจะใน Profile หรือในบล็อคส่วนตัว นอกจากคนที่เป็นเพื่อนคุณ (หมายถึงเพื่อนจริงๆ ในชีวิตจริง) ยังมีเพื่อนออนไลน์ ที่เข้ามาขอเป็นเพื่อนคุณในโลกออนไลน์ เขาเหล่านั้นกำลังจับจ้องชีวิตของคุณอยู่ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม
ดังนั้น หากรักที่จะเป็น Blogger จงยอมรับว่าไม่ใช่ทุกคนจะรัก และชื่อนชอบผลงาน หรือตัวตนของคุณทั้งหมด บางครั้งความเชื่อส่วนตัว ทัศนคติ ประสบการณ์ในชีวิตขอคนที่ไม่ชอบคุณ มันตรงข้ามกับสิ่งที่คุณแสดงออกไป เขาจะเข้ามาตำนิ เตือน ว่ากล่าว หรือด่าเสียๆหายๆได้เลย มันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริงๆ
บางครั้งก็วิตก กังวลเหมือนกันเวลามีคนมาด่าผม แต่ความรู้ ความเชื่อ ที่เราแสดงออกไปอย่างชัดเจนนั้น เป็นเรื่องที่มีเหตุผล เราก็ต้องยอมรับว่าอาจจะมีคนที่ไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือคำตำหนิเหล่านั้น คือ ก่อนที่คุณจะเผยแพร่ ความคิด ความเห็น บทความ หรือข้อเขียนใดๆก็ตาม ทั้งใน Facebook profile (ในโซเซียลมีเดียอื่นๆด้วย…) หรือในบล็อคของคุณก็ตาม ต้องมั่นใจว่านั่นคือความคิดเห็นของคุณ ที่มีข้อมูล หลักฐาน การอ้างอิง มีความน่าเชื่อถือ
หากมันเป็นความคิดเห็น ความเชื่อของคุณ คุณก็ต้องยอมรับความคิดเห็นต่าง จากคนที่ได้อ่านด้วย นั่นคือ Blogger มืออาชีพ
ตกผลึกเร็ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ย่อหย่อนจากเรื่องอื่นๆ Blogger จำเป็นจะต้องสร้างเนื้อหา ดังนั้นการสังเคราะห์ แยกแยะ จัดระเบียบข้อมูลที่ได้รับมา ทั้งจากตัวคุณเอง หรือได้รับฟัง ได้ดู ได้อ่าน มาก็ตาม
ให้สามารเรียงร้อยเป็นเนื้อหาที่คนอื่นสามารถเข้าใจ และเข้าถึงได้ง่ายที่สุด
เพราะ Blogger คือคนที่ชอบแบ่งปันข้อมูลต่างๆให้คนอื่นได้รู้ ได้เข้าใจ และนำไปปฏิบัติจริง ใช้ได้ผล ดังนั้นการทำให้ข้อมูลยากๆ เข้าใจได้ง่าย คืองานหนักของ Blogger มืออาชีพทั้งหลาย
ดังนั้น คุณต้องเป็นคนช่างสงสัย และทดสอบความสงสัยนั้น เพื่อให้ได้คำตอบ
เมื่อได้คำตอบที่ชัดเจน คุณก็ต้องนำมาเรียบเรียง สร้างเนื้อหา และแบ่งปันสู่สาธารณะต่อไป